คอลัมน์ “เสพสม”

หนุ่มใหญ่สงสัย! ใช้ยาเฉพาะกิจร่วมกับฮอร์โมนเพศ กู้เจ้าโลกไม่เเข็งได้ไหม? ป่วยความดันสูง เบาหวาน การรักษาอาการดังกล่าวร่วมกับยาเฉพาะกิจ จะเกิดอันตรายอย่างใดหรือไม่ หากมีจะมีทางเลี่ยงอย่างไรบ้าง?

ตอนนี้ผมอายุ 57 ปี ติดตามอ่านการตอบปัญหาพร้อมกับการให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของคุณหมอโอในเดลินิวส์ตลอดมา จึงมีคำถามดังนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ตรวจพบว่าเป็นความดันโลหิตสูงและมีเบาหวานด้วย เข้ารับการรักษาพบแพทย์ตรวจและรับยามากินตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ตลอดเวลาที่ทำการรักษาความดันโลหิตสูงอยู่นั้น อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเลยทั้ง ๆ ที่มีความรู้สึกทางเพศและมีความต้องการมีเพศสัมพันธ์อยู่เสมอ ไม่ดื่มเหล้า แต่สูบบุหรี่ เคยอ่านที่คุณหมอเขียนบอกว่าผู้ป่วยโรคหัวใจที่กินยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรตพร้อมกับยาเฉพาะกิจอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นั้น จึงอยากทราบว่า ถ้าจะใช้ฮอร์โมนเพศในการรักษาอาการดังกล่าวร่วมกับยาเฉพาะกิจ จะเกิดอันตรายอย่างใดหรือไม่ หากมีจะมีทางเลี่ยงอย่างไรบ้าง อยากได้คำแนะนำจากคุณหมอในเรื่องเหล่านี้

ด้วยความเคารพ
ปิยะชัย 57

ตอบ ปิยะชัย 57

อาการที่อวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่สาเหตุส่วนมากจะมาจากโรคทางกาย ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น และมาจากการมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เช่น การสูบบุหรี่ และดื่มเหล้า อาการอีดีที่เกิดกับชายวัย 57 ปีนี้มาจากการเป็นเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่มาเป็นเวลานาน ซึ่งโรคเบาหวานเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยสาเหตุหนึ่ง ทำให้เกิดปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ผู้ป่วยเบาหวานที่มาพบแพทย์ด้วยปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ จะไม่ทราบว่าเป็นเบาหวานมาก่อน บางครั้งผู้ป่วยคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี จะเกิดปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวขึ้นชั่วคราว และดีขึ้นเมื่อสามารถควบคุมเบาหวานได้ดีแต่หากเป็นเบาหวานมานานหลาย ๆ ปีก็ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่

จากการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่สูบบุหรี่ มีโอกาสเกิดปัญหานี้มากกว่าผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ไม่สูบบุหรี่ร้อยละ 13 นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด อวัยวะเพศได้รับออกซิเจนน้อยลงจากการเพิ่มขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด สำหรับการฟื้นฟูอาการอีดีด้วยการกินยาเฉพาะกิจนั้นจะมีข้อห้ามคือห้ามกินในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ทานยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรต แพทย์จะเป็นผู้ให้คำปรึกษารักษาได้ การใช้ยาเฉพาะกิจร่วมกับการเสริมฮอร์โมนเพศนั้นสามารถใช้ร่วมกันได้แต่ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจหาระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน และต่อมลูกหมากก่อนที่จะได้รับการเสริมฮอร์โมนเพศ หากพบว่ามีความผิดปกติของต่อมลูกหมาก หรือเคยมีประวัติป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากมาก่อนก็เป็นข้อห้ามในการเสริมฮอร์โมนเพศชายจึงควรพบผู้เชี่ยวชาญปรึกษาเรียนรู้ทดสอบและฝึกให้ชำนาญก็จะมีความสุข

การรักษาอาการอีดีในผู้ป่วยแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ผู้ป่วยจึงต้องได้รับการตรวจร่างกาย
อย่างละเอียดก่อนที่จะได้รับการรักษาเสมอ ปัจจุบันการฝึกให้แข็งตัวนาน 30 นาทีทุกวันก็เป็นเรื่องช่วยทางเพศแก่ชายที่สนใจได้ดี คือไม่มีอันตราย ซึ่งช่วยในคนไข้อีดีได้ทุกประเภท

————— 
ดร.โอ สุขุมวิท 51